นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ไทยได้ดำเนินการลดภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการลงเหลือ 0% (ยกเว้นสินค้าที่อยู่ในบัญชีอ่อนไหว 4 รายการ คือ ไม้ตัดดอก เมล็ดกาแฟ มันฝรั่ง และเนื้อมะพร้าวแห้ง มีภาษีนำเข้า 5%) และทยอยออกประกาศเพื่อยกเลิกมาตรการโควตาภาษีสำหรับสินค้า 23 รายการแล้ว โดยสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรไม่รวมยางพารา ระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ในช่วงปี 2553 ที่ผ่านมา พบว่า มีมูลค่าการค้า 215,400 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2552 คิดเป็น 25% โดยไทยส่งออก 167,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 47,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เพราะฉะนั้น ไทยจึงได้เปรียบดุลการค้า 120,300 ล้านบาท ! เพิ่มขึ้น 34%
ส่วนสถานการณ์การค้าสินค้าระหว่างไทยกับอาเซียน 9 ประเทศ ในเดือนมกราคม 2554 พบว่า ไทยส่งออกสินค้าเกษตร (ไม่รวมยางพารา) มีมูลค่า 14,900 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปี 2553 ถึง 8.29% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งออกสินค้ากลุ่มผัก (หอมหัวใหญ่และหอมหัวเล็ก) ผลไม้ (ลำไยสด/แห้ง) ชิ้นส่วนเนื้อสัตว์ปีกสดมากขึ้น ขณะที่การนำเข้าก็จะสูงกว่าเดือนมกราคมปี 2553 คิดเป็น 87.15% ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 6,150 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 30,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,180 ล้านบาท และยังมีการนำเข้ากากน้ำมันจากผลปาล์ม น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ และมันเส้น/มันอัดเม็ดจากอาเซียนเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ไทยมีความได้เปรียบดุลการค้าลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2553 คิดเป็น 16.41% โดยมีมูลค่าเท่ากับ 8,700 ล้านบาท
ที่มา : บ้านเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น