วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554
UN เตือน ไข้หวัดนกอาจกลับมาระบาดอีกระลอก
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาติ (FAO) แจ้งเตือนว่าไข้หวัดนกอาจกลับมาระบาดอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้มีเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิด H5N1 ซึ่งกลายพันธุ์กำลังระบาดในประเทศต่างๆในเอเชีย และมีความเป็นไปได้ที่จะแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์
ขณะนี้ เชื้อไวรัส H5N1 ซึ่งกลายพันธุ์กำลังแพร่ระบาดในจีนและเวียดนาม วัคซีนชนิดต่างๆ ที่ใช้กับไวรัส H5N1 ในปัจจุบันไม่สามารถใช้ป้องกันไวรัสที่กลายพันธุ์ได้ และ UN กังวลว่าเชื้อไข้หวัดนกที่กลายพันธุ์นี้อาจแพร่ระบาดมายังกัมพูชา ไทย มาเลเซีย คาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น
! ; นาย Juan Lubroth หัวหน้าเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ของ FAO กล่าวว่า นกป่าอาจเป็นตัวนำเชื้อไวรัสเข้ามาก็จริง แต่การกระทำของมนุษย์ด้านการผลิตและการซื้อขายสัตว์ปีกนั้นทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาด
อนึ่ง มีการระบาดของไข้หวัดนกมากที่สุดในปี 2549 ก่อนที่จะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นในหลายๆประเทศ
ที่มา : Xinhua
เสฉวนส่งออกเนื้อหมูลดฮวบ 30% แต่ราคาขายพุ่งเป็นประวัติการณ์
ศุลกากรนครเฉิงตู รายงานปริมาณการส่งออกเนื้อหมูของมณฑลเสฉวนตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง กรกฎาคม 2554 อยู่ที่ 9,000 ตัน ลดลงถึง 29.8% แต่ราคาปรับตัวเพิ่มสวนทางสร้างสถิติแพงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงตันละ 3,337 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปี2553ถึง 31.9%
เจ้าหน้าที่ศุลกากรกล่าวว่า ปริมาณการส่งเนื้อสุกรออกนอกของมณฑลเสฉวนมีปริมาณลดลงนั้น สาเหตุหนึ่งมาจากตลาดต่างประเทศต้องการเนื้อหมูลดลง อาทิ ตลาดฮ่องกงมีความต้องการเนื้อหมูนำเข้าจากมณฑลเสฉวนเหลือเพียง 4,322 ตัน เท่านั้น ซึ่งลดลงกว่า 31.2% ขณะเดียวกันการส่! งออกเนื้อหมูสู่ประเทศคีร์กิซสถานยังลดลงถึง 48.3% เพราะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูง
เจ้าหน้าที่ฯยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อครึ่งแรกของปี 2553 เนื้อหมูยังมีราคาต่ำ ส่งผลให้ผู้เลี้ยงสุกรโดยเฉพาะรายย่อยขาดทุนหนักและลดการผลิตลงในที่สุด นอกจากนี้ ระยะเวลาการเลี้ยงหมูต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 เดือน ยิ่งส่งผลให้หมูโตไม่ทันบริโภคอีกทั้งมีจำนวนลดลงไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดภายประเทศ ส่งผลให้เนื้อหมูขาดตลาด กระทบต่อราคาที่ต้องแพงขึ้นในปี2554 โดยเห็นชัดเจนสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายนและ กรกฎาคม 2554 เป็นต้นมา
ศุลกากร นครเฉิงตู เผยกำไรจากสุกรเป็นต่อตัวที่หน้าด่านในเดือนมิถุนายน 2554 ทะลุตัวละ 600 หยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อนตัวละ 200 หยวน เนื่องจากกระบวนการผลิตเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อสุกรแปรรูป และอื่นๆ มีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่โรงฆ่าสัตว์มีจำนวนลดลง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนสุดท้! ายที่ได้จากสุกรมีราคาที่สูง ล้วนส่งผลต่อราคาบริโภคสุกรที่สูงขึ! ้นในขณะน ี้
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู
จีนจับผู้ลักลอบผลิต-ขายเนื้อใส่สาร Clenbuterol เฉียดพัน
เมื่อไม่นานนี้จีนเกิดกรณีอื้อฉาวเนื้อสุกรปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง clenbuterol ซึ่งเป็นสารปรุงต้องห้ามที่ใส่ในอาหารสุกรเพื่อทำให้ราคาเนื้อสุกรแพงขึ้นสูงขึ้น สืบเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการจีนจึงได้จับผู้ต้องหา 989 คนในข้อหาผลิตและจำหน่ายสารดังกล่าว
Xu Hu เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงความปลอดภัยของจีนเปิดเผยถึงการจับกุมแก๊งใต้ดินจำหน่ายและและผลิตสารดังกล่าว โดยแก็งค์นี้เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายสาร clenbuterol ใน 63 เมืองของจีน และเมื่อไม่นานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดสารดังกล่าว 2.75 ตัน พร้อมทั้งปิดห้อง! ปฏิบัติการผิดกฎหมาย 6 แห่ง โรงผลิต 12 แห่ง โรงงานแปรรูป 19 แห่ง คลังเก็บสินค้า และโรงงานใต้ดินอีก 32 แห่ง
เนื้อสุกรเป็นเนื้อสัตว์คนจีนนิยมบริโภคมากที่สุด อย่างไรก็ตามกรณีอื้อฉาวเนื้อสุกรปนเปื้อนสาร Clenbuterol ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 ได้สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคและรัฐบาลจีน
ที่มา : Pig Progress
จีนจับผู้ลักลอบผลิต-ขายเนื้อใส่สาร Clenbuterol เฉียดพัน
เมื่อไม่นานนี้จีนเกิดกรณีอื้อฉาวเนื้อสุกรปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง clenbuterol ซึ่งเป็นสารปรุงต้องห้ามที่ใส่ในอาหารสุกรเพื่อทำให้ราคาเนื้อสุกรแพงขึ้นสูงขึ้น สืบเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการจีนจึงได้จับผู้ต้องหา 989 คนในข้อหาผลิตและจำหน่ายสารดังกล่าว
Xu Hu เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงความปลอดภัยของจีนเปิดเผยถึงการจับกุมแก๊งใต้ดินจำหน่ายและและผลิตสารดังกล่าว โดยแก็งค์นี้เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายสาร clenbuterol ใน 63 เมืองของจีน และเมื่อไม่นานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดสารดังกล่าว 2.75 ตัน พร้อมทั้งปิดห้อง! ปฏิบัติการผิดกฎหมาย 6 แห่ง โรงผลิต 12 แห่ง โรงงานแปรรูป 19 แห่ง คลังเก็บสินค้า และโรงงานใต้ดินอีก 32 แห่ง
เนื้อสุกรเป็นเนื้อสัตว์คนจีนนิยมบริโภคมากที่สุด อย่างไรก็ตามกรณีอื้อฉาวเนื้อสุกรปนเปื้อนสาร Clenbuterol ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 ได้สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคและรัฐบาลจีน
ที่มา : Pig Progress
คาซัคสถานลดพึ่งพานำเข้าสัตว์ปีก
นาย Rabiga Tokseitova อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรคาซัคสถานกล่าวว่า รัฐบาลคาซัคสถานกำลังเตรียมขั้นตอนการสนับสนุนอุตสาหกรรมสัตว์ปีกในประเทศ โดยคาดว่า คาซัคสถานจะสามารถลดปริมาณนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า ทุกปี อุตสาหกรรมสัตว์ปีกคาซัคสถานสามารถเพิ่มผลผลิต และปัจจุบันนี้ สัดส่วนการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกลดลงอย่างสม่ำเสมอ แต่ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าโดยเนื้อสัตว์ปีกในตลาดประมาณ 56 % เป็นสินค้านำเข้า
รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมสัตว์ปีกโดยการตั้งกองทุนเมล็ดพืชอาหารสัตว์ประมาณ 300000 ตัน และทุกปีๆได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินก! ู้จากธนาคารสำหรับการซื้ออุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อการทำฟาร์มสัตว์ปีก ซึ่งมีจุดประสงค์ในการจัดหาทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ผลิต
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ปฏิบัติตามนโยบายลดโควตานำเข้าเนื้อสัตว์ปีกอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกรายใหญ่มายังคาซัคสถาน เมื่อปี 2552 คาซัคสถานนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากสหรัฐฯ ที่ 147,000 ตัน และเมื่อปี 2553 คาซัคสถานได้ลดโควตานำเข้าเหลือ 110,000 ตัน
ที่มา : World Poultry
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ไข่ไก่จากเนเธอร์แลนด์ปนเปื้อนไดออกซิน
หน่วยงานความปลอดภัยอาหารและผู้บริโภคแห่งใหม่ของเนเธอร์แลนด์ (nVWA) รายงานว่า ไข่ไก่ซึ่งปนเปื้อนไดออกซิน ผลิตในเนเธอร์แลนด์ถูกส่งออกไปยังเบลเยี่ยมและลักเซมเบิร์ก โดยไข่เหล่านี้ฟาร์มอินทรีย์แห่งหนึ่งในประเทศ ถูกส่งไปบรรจุหีบห่อในเบลเยี่ยมและส่งต่อไปยังห้างสรรพสินค้าในเบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก และโรงงานผลิตไข่ในเบลเยี่ยม
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนว่าไข่ไก่ปนเปื้อนไดออกซินดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไข่ และได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการไม่ให้ใช้ไข่ดังกล่าวจนกว่าการวิเคราะห์จะเสร็จสิ้! น แต่ขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุการปนเปื้อน และยังไม่สามารถระบุได้ว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นเมื่อใด แม้ว่าหน่วยงานคาดว่า มีไข่ไก่ที่ปนเปื้อนจากฟาร์มเพียงแห่งเดียวเท่านั้นก็ตาม และนอกจากนี้ ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนไข่ไก่ปนเปื้อนสารดังกล่าวที่แน่นอนได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์ได้แจ้งเตือนผ่านระบบ RASFF ว่าไข่ไก่ปนเปื้อนไดออกซินที่ระดับ 2.07 pg WHO TEQ/กรัม และ polychlorobifenyls ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติคล้ายไดออกซินปนเปื้อนที่ระดับ 12.31 pg WHO TEQ/กรัม
อนึ่ง ขณะนี้ มีการนำไข่ไก่ที่ปนเปื้อนออกจากตลาดและบริษัทที่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ไข่ที่ผลิตจากไข่ไก่ดังกล่าวได้รับแจ้งเตือนไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจนกว่าผลการตรวจสอบจะยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์จากไข่ไก่ดังกล่าวไม่มีปริมาณได! ออกซินปนเปื้อนเกินมาตรฐาน
ที่มา : Food Production Daily
วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554
รัสเซียไฟแดงเนื้อสัตว์ปีกจากบริษัทบราซิล 2 แห่ง
หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสัตวแพทย์และสุขอนามัยพืชรัสเซีย (Rosselkhoznadzor) ระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากบริษัทบราซิล 2 แห่ง คือ บริษัท Libra Terminais SA และ Diplomata S/A Industrial e Comercial เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าวไม่ปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบการเชื้อ listeria ปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ปีกของบริษัท Libra Terminais SA และพบเชื้อ Salmonella ปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ปีกของบริษัท Diplomata S/A Industrial e Comercial
ก่อนหน้านี้ Rosselkhoznadzor ได้แจ้งเตือนบริษัทบราซิลหลายแห่งให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการควบคุมความปลอดภัยอาหารที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในตลาดรัสเซีย และยังแจ้งเตือนว่าจะระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกชั่วคราวจากบริษัทบราซิลแห่งอื่นๆอีก ถ้าผู้ผลิตยังละเลยในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหภาพศุลกากร (Customs Union)
จนถึงปัจจุบัน รัสเซียระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อจากบริษัทบราซิลจำนวนทั้งหมด 129 บริษัท
ที่มา : World Poultry
วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ออสเตรเลียเตือนเกษตรกรให้ระวังโรคหวัดหน้าบวมในสัตว์ปีก
ดร. James Harris สัตวแพทย์เกาะแทสมาเนีย ออสเตรเลีย และประธานสมาคมสัตวแพทย์สัตว์ปีก เตือนผู้เลี้ยงสัตว์ปีก เช่น เกษตรกร และผู้เลี้ยงสัตว์ปีกไว้ดูเล่น ให้ระวังโรคหวัดหน้าบวม (infectious coryza) ซึ่งในขณะนี้กำลังแพร่ระบาดในไก่ในเกาะแทสมาเนียมากผิดปกติ
Dr James Harris ได้ให้คำแนะนำว่า ถ้านำสัตว์ปีกมาเลี้ยง ควรขังเดี่ยวเพื่อกักกันโรคและสังเกตอาการ เป็นเวลา
30 วัน หรือในกรณีที่นำสัตว์ปีกไปแสดง ให้กักกันโรคสัตว์ปีกนั้นเป็นเวลา 30 วัน เช่นเดียวกัน
โรคหวัดหน้าบวมซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจมักพบในสัตว์ปีกภายในประเทศ เป็นโรคที่มีอันตรายถึงตายและสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว
ที่มา : The Poultry Site
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ไต้หวันพบสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 กระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน (DOH) แจ้งว่า ตรวจพบยา ractopamine ซี่งเป็นสารเร่งเนื้อแดงปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์เนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯอีกครั้ง จากสถิติข้อมูลของ DOH ระบุว่า จนถึงปัจจุบันมีการพบเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐ 1.9 % ปนเปื้อน ractompamine ซึ่งเป็นยาที่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตอาหารที่ได้จากสัตว์ใน 24 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และบราซิล แต่มีการห้ามใช้ยาดังกล่าวในสหภาพยุโรป จีน และไต้หวัน
Focus Taiwan รายงานว่าตรวจพบยา ractompamine ซึ่งลดการสังเคราะห์ไขมันและเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน ในสามตัวอย่างของผ! ลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการพิธีศุลกากร (customs clearance) ในไต้หวัน เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยาไต้หวันจึงสั่งให้ส่งสินค้าดังกล่าวกลับคืนสหรัฐฯหรือนำไปทำลาย
กระทรวงการคลังกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 มีเนื้อวัวถอดกระดูกกว่า 5 ล้านปอนด์และเนื้อวัวติดกระดูก กว่า 250,000 ปอนด์จากสหรัฐฯ ผ่านการตรวจสอบของศุลกากร แต่ไต้หวันได้ระงับการนำเข้าเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯกว่า 100,000 ปอนด์ เนื่องจากพบยา ractopamine ตกค้างในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ที่มา : Food Safety News
ไต้หวันพบสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 กระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน (DOH) แจ้งว่า ตรวจพบยา ractopamine ซี่งเป็นสารเร่งเนื้อแดงปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์เนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯอีกครั้ง จากสถิติข้อมูลของ DOH ระบุว่า จนถึงปัจจุบันมีการพบเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐ 1.9 % ปนเปื้อน ractompamine ซึ่งเป็นยาที่อนุญาตให้ใช้ในการผลิตอาหารที่ได้จากสัตว์ใน 24 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และบราซิล แต่มีการห้ามใช้ยาดังกล่าวในสหภาพยุโรป จีน และไต้หวัน
Focus Taiwan รายงานว่าตรวจพบยา ractompamine ซึ่งลดการสังเคราะห์ไขมันและเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน ในสามตัวอย่างของผ! ลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการพิธีศุลกากร (customs clearance) ในไต้หวัน เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยาไต้หวันจึงสั่งให้ส่งสินค้าดังกล่าวกลับคืนสหรัฐฯหรือนำไปทำลาย
กระทรวงการคลังกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 มีเนื้อวัวถอดกระดูกกว่า 5 ล้านปอนด์และเนื้อวัวติดกระดูก กว่า 250,000 ปอนด์จากสหรัฐฯ ผ่านการตรวจสอบของศุลกากร แต่ไต้หวันได้ระงับการนำเข้าเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯกว่า 100,000 ปอนด์ เนื่องจากพบยา ractopamine ตกค้างในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ที่มา : Food Safety News
พบอีกแล้ว โรค ASF ระบาดในรัสเซีย
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2554 พบสุกร 30 ตัวตายในฟาร์มสุกรแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน Darivka Rodionovo ในเขต Rostov จากการนำอวัยวะส่วนที่มีพยาธิของสุกรเสียชีวิตไปวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการทางสัตวแพทย์ของภูมิภาค Rostov ปรากฎผลว่าพบโรคไข้สุกรแอฟริกัน (ASF) ในอวัยวะเหล่านั้น โดยฟาร์มดังกล่าวมีสุกร 6,500 ตัว ซึ่งหน่วยงานสัตวแพทย์ท้องถิ่นอยู่ในระหว่างป้องกันไม่ให้โรคดังกล่าวแพร่ระบาดไปมากกว่านี้
ทั้งนี้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2554 รองนายกรัฐมนตรี Viktor Zubkov กล่าวว่าโรค ASF ได้ระบาดในพื้นที่ตอนใต้ของรัสเซียและแพร่วงกว้างไปยังพื้นที่ตอนกลางและตะวันตกเฉีย! งเหนือ ขณะที่ก่อนหน้านี้รัสเซียก็เกิดการระบาดของโรค ASF ในภูมิภาค Krasnodar ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยพบการระบาดของโรคดังกล่าว 5 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นมา
ที่มา : Pig Progress
วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554
จีนพบไนไตรท์ปนเปื้อนmรังนกนำเข้าจากมาเลย์
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2554 หน่วยงานบริหารด้านอุตสาหกรรมและพาณิชย์จังหวัดซีเจียงแจ้งว่า จากการตรวจสอบรังนกสีแดง (blood-red cubilose) นำเข้าจากมาเลเซียของผู้ค้าจำนวน 491 รายในจังหวัดซีเจียงพบว่า มีไนไตรท์ปนเปื้อนรังนกสีแดงโดยเฉลี่ยที่ 4,400 มิลลิกรัมต่อหนึ่งกิโลกรัม เกินกว่ามาตรฐานซึ่งกำหนดไว้ที่ 70 มิลลิกรัมต่อหนึ่งกิโลกรัม และระดับการปนเปื้อนไนไตรท์ที่มากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค เช่น เป็นสารก่อมะเร็ง
รังนกสีแดงเป็นอาหารประเภทหายาก เป็นที่นิยมบริโภคในจีนและมีราคาแพงเนื่องจากความเชื่อว่าดีต่อสุขภาพ โดยรังนกสีแดงส่วนใหญ่ซึ่งมีจำหน่ายในตลาดท้! องถิ่นของซีเจียงนำเข้าจากมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกรังนกรายใหญ่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Sin Chew Daily ระบุว่ารังนกสีแดงที่จำหน่ายในตลาดท้องถิ่นเป็นของปลอม
ที่มา : Xinhua
จีนป้องกันหมูที่กินเศษอาหารเข้าสู่ตลาด
สถาบันตรวจสอบสุขภาพสัตว์ปักกิ่งรายงานว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2554 สถาบันฯสามารถสกัดสุกรที่กินเศษอาหารไม่ให้เข้าสู่ตลาดได้กว่า 15,000 ตัว ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของรัฐบาลเพื่อควบคุมการเพิ่มจำนวนโรงเชือดสัตว์ผิดกฎหมาย
สถาบันตรวจสอบสุขภาพสัตว์ปักกิ่ง กล่าวเพิ่มเติมว่าพบการฟาร์มสัตว์เลี้ยงสุกรจำนวน 157 แห่งในเขตชานเมืองของกรุงปักกิ่งได้แก่เขต Tongzhou, Shunyi และ Fangshan ที่นำเศษอาหารเปียกและแห้งนำมาใช้เป็นอาหารสำหรับสุกรเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเกษตรกรจะรวบรวมเศษอาหารจากโรงแรม ภัตตาคาร โรงอาหา! ร อย่างไรก็ตามฝ่ายกักกันสัตว์จะฆ่าและฝังกลบสุกรติดเชื่อที่พบระหว่างการตรวจการกักกันโรค เนื่องจากสุกรที่กินเศษอาหารมีแนวโร้มที่จะเป็นพาหะของโรคต่างๆ เช่นโรคปากและเท้าเปื่อย
ที่มา : All About Feed
เวียดนามไฟเขียวปศุสัตว์แคนาดา
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2554 รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและเกษตรแคนาดา เปิดเผยว่า เวียดนามยกเลิกการห้ามนำเข้าแม่พันธุ์วัว ควาย แกะ แพะมีชีวิตจากแคนาดา หลังห้ามนำเข้าจากแคนาดามาเป็นระยะเวลา 8 ปี หรือตั้งแต่ปี 2546 เนื่องจากการระบาดของโรควัวบ้าในแคนาดา
ทั้งนี้เมื่อปลายปี 2553 เวียดนามอนุญาตนำเข้าเนื้อวัวแคนาดา ในขณะที่จีนอนุญาตให้นำเข้าเนื้อวัวจากแคนาดาเมื่อปลายปี 53 เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เริ่มมีการขนส่งเพื่อการค้า และเมื่อเดือนมิถุนายน 2554 เกาหลีใต้ ระบุว่า จะนำเข้าเนื้อวัวแคนาดาอีกครั้งก่อนปลายปี 54
ที่มา : Reuters Canada
ไทยกำลังจะได้รับสถานะปลอดโรคนิวคาสเซิล
ไทยกำลังจะแจ้งองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) เพื่อขอให้ปรับสถานะให้ไทยปลอดโรคนิวคาสเซิลในสัตว์ปีก
เจ้าหน้าจากกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า ในปี 2554 ไทยเคยได้รับการรับรองจาก OIE ว่าปลอดโรคดังกล่าว แต่มีการรายงานข่าวในช่วงนี้ถึงการเกิดโรคที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคนิวคาสเซิล อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าไก่บางส่วนมีอาการหลอดลมอักเสบ ซึ่งอาจไม่ได้เกิดจากโรคนิวคาสเซิล
ปัจจุบันไทยสามารถควบคุมโรคนิวคาสเซิลได้แล้ว อย่างไรก็ดีได้กระตุ้นให้ให้เกษตรกรรี! บฉีดวัคซีนให้ไก่ทุก 1-7 วัน 21 วัน และทุก 3 เดือนตาม และสามารถฉีดวัคซีนติดต่อกัน 2 ปีได้อีกทางเลือกหนึ่ง และทาง OIE จะรับรองสถานะปลอดโรคดังกล่าวก็ต่อเมื่อไม่พบการระบาดเป็นเวลา 5 ปี
ที่มา : World Poultry
งานวิจัยเมืองทิวลิปชี้ การทำลายสัตว์ปีกป้องกันไข้นกดีกว่าฉีดวัคซีน
สถาบัน LEI และ Central Veterinary Institute ของศูนย์วิจัยและมหาวิทยาลัย Wageningen ในเนเธอร์แลนด์ ออกผลวิจัยเกี่ยวกับการทำลายและฉีดวัคซีนในสัตว์ปีกเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกในรัศมี 1-3 กิโลเมตรจากจุดที่ระบาด ได้ข้อสรุปว่าการทำลายสัตว์ปีกสามารถป้องกันไข้หวัดนกได้ดีกว่าการฉีดวัคซีน โดยการทำลายสัตว์ในฟาร์มที่มีสัตว์ปีกติดเชื้อเป็นไข้หวัดนกจะมีระยะเวลาระบาดที่สั้นกว่า ขณะที่การฉีดวัคซีนสัตว์ปีกถึงแม้ว่าจะช่วยลดจำนวนฟาร์มสัตว์ปีกที่แพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกได้จริงและต้นทุนต่ำกว่า แต่มีระยะเวลาระบาดนานกว่า
อย่าง! ไรก็ดี ยุทธศาสตร์ของสหภาพยุโรปที่ทำลายสัตว์ปีกในฟาร์มติดเชื้ออาจไม่เพียงพอต่อการควบคุมการระยาดในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของสัตว์ปีกน้อย
ทั้งนี้ สาธารณชนยอมรับการป้องกันด้วยการทำลายด้วยการทำลายน้อยลงและเรียกร้องมาตรการป้องกันแบบอื่นเช่นการฉีดวัคซีน
ที่มา : LEI
วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554
นสพ.อลงกรณ์ มหรรณพ ฝากประชาสัมพันธุ์ช่วยสุนัข จังหวัดนครพนม
นสพ.อลงกรณ์ มหรรณพ ฝากประชาสัมพันธ์ขอเชิญชวนผู้ที่รักสัตว์ทั้งหลาย ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือสุนัขที่รอดพ้นจากการถูกนำไปขายต่างประเทศที่จังหวัดนครพนม ได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสนครพนม บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 666-009-7947 ชื่อบัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ถ้ายังไงรบกวนฝาก share ต่อๆกันไปเยอะๆนะคะ เพื่อจะได้ช่วยให้สุนัขที่น่าสงสารเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาได้บ้างค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554
หมูไต้หวันได้รับสารเร่งเนื้อแดงมีจำนวนเกินกว่าที่คาดไว้ถึง 5 เท่า
สภาการเกษตร (COA) ในไทเป เกาะไต้หวัน กล่าวว่า ในขณะนี้ COA เชื่อว่าสุกรที่ได้รับสารเร่งเนื้อแดงซึ่งเป็นยาต้องห้ามมีจำนวนมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
นาย Hsu Tien-lai อธิบดีสำนักงานกักกันและตรวจสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์ (BAPHIQ) เปิดเผยข้อมูลการจับกุมกลุ่มอาชญากรกลุ่มหนึ่งซึ่งจำหน่ายสารเร่งเนื้อแดง โดยคาดการณ์ว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 ถึงเดือนมิถุนายน 2554 จะมีสุกรที่ได้รับสารเร่งเนื้อแดงจำนวน 750,000 ตัว ซึ่งมากกว่าจำนวนที่ COA ได้สุ่มตรวจในช่วงเดียวกันถึง 5 เท่า เมื่อคำนวณจากผลกำไรที่กลุ่มอาชญากรได้! รับพบว่ามีจำนวนถึง 50 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.22 ล้านยูโร)
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มอาชญากรซึ่งมีสมาชิกจำนวน 5 ราย ซึ่งได้ลักลอบนำเข้าสารกลุ่ม beta-agonist เพื่อผลิตยา ractopamine และได้จำหน่ายยาดังกล่าวให้แก่ฟาร์มเลี้ยงสุกรบนเกาะไต้หวัน
เมื่อคำนวณจากผลกำไรที่กลุ่มอาชญากรได้รับ BAPHIQ คาดการณ์ว่าจะมีการจำหน่ายอาหารสัตว์ซึ่งปนเปื้อนยาดังกล่าวจำนวน 75,000 ตัน และถ้าสุกร 1 ตัวได้รับอาหารปริมาณ 100 กิโลกรัมเป็นเวลา 1 เดือนก่อนถูกเชือด ต้องมีสุกรจำนวน 750, 000 ตัวได้รับยาดังกล่าว
แต่เดิม BAPHIQ ตรวจพบสารตกค้างของยา ractopamine ในสุกรเพียง 147,500 ตัวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม นาย Hsu กล่าวว่า BAPHIQ จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้! กระทำผิดดังกล่าวต่อไป
ที่มา : All About Feed (9สิงหาคม2554)
ไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรงสูงระบาดในฟาร์มนกกระจอกเทศ 9 แห่งในแอฟริกาใต้
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ได้รายงานต่อองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) เรื่องการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรงสูง (HPAI) H5N2 ในฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศอีก 9 แห่ง ซึ่งฟาร์มทั้งหมดตั้งอยู่ในจังหวัด Western Cape
รายงานระบุว่า การระบาดของเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรงสูงเริ่มเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ถึง 6 กรกฎาคม 2554 มีนกกระจอกเทศทั้งหมดจำนวน 4, 238 ตัวได้รับผลกระทบ นกกระจอกเทศจำนวน 1,706 แสดงอาการของโรค ขณะที่นกกระจอกเทศ 14 ตัวถูกทำลายและ 1,186 ตัวถูกเชือด
ที่มา : The Poultry Site (9สิงหาคม2554
มะกันเรียกคืนไส้แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัว เหตุปนเปื้อนโลหะ
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 หน่วยงานบริการตรวจสอบและความปลอดภัยอาหารของสหรัฐฯ (FSIS) ประกาศว่า บริษัท AdvancePierre Foods, Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐไอโอวา สหรัฐฯ เรียกคืนไส้แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัวพร้อมรับประทานประมาณ 10, 668 ปอนด์ เนื่องจากอาจปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอม
ผลิตภัณฑ์ซึ่งถูกเรียกคืนผลิตเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2554 และมีวางจำหน่ายที่ร้าน H-E-B ในเมือง San Antonio รัฐ Texas บรรจุในบรรจุภัณฑ์ขนาด 12 ปอนด์ ภายในประกอบด้วยถุงขนาด 24 ออนซ์ 8 ใบ ยี่ห้อ H-E-B ไส้แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัวไม่ติดมัน ในเครื่องหมายการตรวจสอบของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) มีรหัสสินค้าของ H-E-B คือ 100538 และ รหัสสถานประกอบการ คือ 2568
การเรียกคืนเกิดขึ้นหลังจากผู้บริโภครายหนึ่ง สังเกตเห็นเศษโลหะบนผิวไส้แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัวพร้อมรับประทานดังกล่าว คาดว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาด้านเครื่องมือการผลิต โดยผิวโลหะของเครื่องทำรอยไหม้
ร้อนเกินไปทำให้เศษโลหะปริมาณเล็กน้อยหลุดร่อนติดลงบนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ ขณะนี้ FSIS ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคและรายงานการเจ็บป่วยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ดังกล่าว FSIS ยังได้แนะนำให้ผู้บริโภคไม่ให้ใช้ไมโครเวฟอุ่นผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ที่มา : USDA (9สิงหาคม2554
มะกันหวั่นหอยนางรมปนเปื้อน
กรมสุขภาพประจำรัฐวอชิงตันเปิดเผยว่า มีการระบาดของเชื้อ Vibrio parahaemolyticus ทำให้มีผู้ป่วยราว 22 ราย จากการบริโภคหอยนางรมปนเปื้อนเชื้อดังกล่าว ในย่าน Puget Sound และชายฝั่งวอชิงตัน
เชื้อแบคทีเรีย Vibrio parahaemolyticus เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิกแบคทีเรียชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่น และน้ำลด
&nb! sp; โรค Vibriosis จะแสดงอาการ หลังบริโภคหอยปนเปื้อนเชื้อเป็นเวลา 12-24 ชม. โดยจะมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดหัว อาเจียน เป็นไข้ แต่อาการเหล่านี้จะทุเลาลงในระยะเวลา 2-7 วัน แต่ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือเป็นโรคตับอาจมีอาการรุนแรงถึงเสียชีวิตได้
ที่มา : Food Safety News (9สิงหาคม2554)
รัสเซียไฟแดงเนื้อสัตว์ผู้ส่งออกมะกัน
หน่วยงานสัตวแพทย์ของรัสเซียระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตวปีกของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ แห่งหนึ่งเนื่องจากการระบาดของเชื้อ Salmonella
จากของมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) พบว่ามีผู้ติดเชื้อจาก Salmonella 76 รายใน 26 รัฐ ของสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ที่มา : World Poultry (9สิงหาคม2554)
รัสเซียไฟแดงเนื้อสัตว์ผู้ส่งออกมะกัน
หน่วยงานสัตวแพทย์ของรัสเซียระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตวปีกของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ แห่งหนึ่งเนื่องจากการระบาดของเชื้อ Salmonella
จากของมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) พบว่ามีผู้ติดเชื้อจาก Salmonella 76 รายใน 26 รัฐ ของสหรัฐฯ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ที่มา : World Poultry (9สิงหาคม2554)
หมูป่าเมืองน้ำหอมตายตามชายฝั่ง ตายปริศนา
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2554 พบหมูป่าจำนวน 36 ตัวใกล้เมือง Morieux นอนตายตามชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ขณะนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้
นักสิ่งแวดล้อมระบุว่า ก๊าซพิษ Hydrogen sulfide ที่ถูกปล่อยจากสาหร่ายที่เน่าเปื่อยนั้นเป็นพิษต่อหมูป่าในเขตการปกครอง Cotes d'Armor ของแคว้น Brittany สาหร่ายจำนวนมากตามแนวชายฝั่งฝรั่งเศสอาจเกิดขึ้นจากสารไนเตรทซึ่งถูกปล่อยจากการใช้ปุ๋ยในการทำเกษตรกรรมอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ผลชันสูตรซากหมูป่า 6 ตัวได้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันมาก เนื่องจากในหมูป่าตัวหนึ่งไม่พบร่องรอยของก๊าซดังกล่าวเลย จึงทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปที่แน่ชัดได้
ทั้งนี้ชายหาดใกล้เมือง Morieux ดังกล่าวที่พบหมูนอนตายมากที่สุดนั้น ถูกปิดห้ามสาธารณชนเข้า
ที่มา : World Poultry (9สิงหาคม2554)
หมูป่าเมืองน้ำหอมตายตามชายฝั่ง ตายปริศนา
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2554 พบหมูป่าจำนวน 36 ตัวใกล้เมือง Morieux นอนตายตามชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ขณะนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้
นักสิ่งแวดล้อมระบุว่า ก๊าซพิษ Hydrogen sulfide ที่ถูกปล่อยจากสาหร่ายที่เน่าเปื่อยนั้นเป็นพิษต่อหมูป่าในเขตการปกครอง Cotes d'Armor ของแคว้น Brittany สาหร่ายจำนวนมากตามแนวชายฝั่งฝรั่งเศสอาจเกิดขึ้นจากสารไนเตรทซึ่งถูกปล่อยจากการใช้ปุ๋ยในการทำเกษตรกรรมอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ผลชันสูตรซากหมูป่า 6 ตัวได้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันมาก เนื่องจากในหมูป่าตัวหนึ่งไม่พบร่องรอยของก๊าซดังกล่าวเลย จึงทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปที่แน่ชัดได้
ทั้งนี้ชายหาดใกล้เมือง Morieux ดังกล่าวที่พบหมูนอนตายมากที่สุดนั้น ถูกปิดห้ามสาธารณชนเข้า
ที่มา : World Poultry (9สิงหาคม2554)
หมูป่าเมืองน้ำหอมตายตามชายฝั่ง ตายปริศนา
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2554 พบหมูป่าจำนวน 36 ตัวใกล้เมือง Morieux นอนตายตามชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ขณะนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้
นักสิ่งแวดล้อมระบุว่า ก๊าซพิษ Hydrogen sulfide ที่ถูกปล่อยจากสาหร่ายที่เน่าเปื่อยนั้นเป็นพิษต่อหมูป่าในเขตการปกครอง Cotes d'Armor ของแคว้น Brittany สาหร่ายจำนวนมากตามแนวชายฝั่งฝรั่งเศสอาจเกิดขึ้นจากสารไนเตรทซึ่งถูกปล่อยจากการใช้ปุ๋ยในการทำเกษตรกรรมอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม ผลชันสูตรซากหมูป่า 6 ตัวได้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันมาก เนื่องจากในหมูป่าตัวหนึ่งไม่พบร่องรอยของก๊าซดังกล่าวเลย จึงทำให้ไม่สามารถหาข้อสรุปที่แน่ชัดได้
ทั้งนี้ชายหาดใกล้เมือง Morieux ดังกล่าวที่พบหมูนอนตายมากที่สุดนั้น ถูกปิดห้ามสาธารณชนเข้า
ที่มา : World Poultry (9สิงหาคม2554)
วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554
EFSA เผยความเสี่ยงจากการใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์ที่เป็นอาหาร
จากการศึกษาของคณะกรรมการ BIOHAZ Panel ของสำนักงานความปลอดภัยอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) ทำให้เกิดการเรียกร้องให้ลดการใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์ที่ผลิตเป็นอาหารในสหภาพยุโรป โดยระบุว่า การใช้ยาปฎิชีวนะในสัตว์ที่เป็นอาหาร ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ เนื่องจากมีสายพันธุ์แบคทีเรียดื้อยาเพิ่มขึ้น ทางเลือกหนึ่งคือการลดการใช้หรือเลิกใช้ cephalosporins ในการผลิตอาหารสัตว์
EFSA ระบุว่า การดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในคน และยาที่ใช้การรักษาการติดเชื้อเกิดขึ้น เนื่องจากแบคทีเรียพัฒนากระบวนการ ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของยาเหล่าน! ั้น
ในการประเมินความเสี่ยงของ BIOHAZ พบว่า แม้ว่าแบคทีเรียจะต่างชนิดกัน เช่น E.coli, Salmonella แต่สามารถผลิตเอนไซม์ 2 ชนิด ได้แก่ extended-spectrum beta-lactamases (ESBL) และ AmpC beta-lactamases (AmpC) ซึ่งจะทำให้ยาปฏิชีวนะ เช่น penicillins, cephalosporins เสื่อมประสิทธิภาพ
ตั้งแต่ปี 2543 พบเชื้อ E.coli และ Salmonella ที่ผลิตเอนไซม์ ESBL/AmpC ในอาหารและสัตว์มากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในไก่มีชีวิต และเนื้อไก่ ไข่ และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกอื่นๆ
BIOHAZ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด การวิวัฒนาการ และการแพร่กระจายของแบคทีเรียที่ผลิตเอนไซม์ ESBL/AmpC สรุปได้ว่า การใช้ยาปฏิชีวนะทั่วไป (ไม่เฉพาะ cephalosporins) เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของสายพันธุ์แบคทีเรียที่ดื้อ! ยาปฏิชีวนะเหล่านี้
ที่มา : The Pig Site
EFSA ระบุว่า การดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในคน และยาที่ใช้การรักษาการติดเชื้อเกิดขึ้น เนื่องจากแบคทีเรียพัฒนากระบวนการ ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของยาเหล่าน! ั้น
ในการประเมินความเสี่ยงของ BIOHAZ พบว่า แม้ว่าแบคทีเรียจะต่างชนิดกัน เช่น E.coli, Salmonella แต่สามารถผลิตเอนไซม์ 2 ชนิด ได้แก่ extended-spectrum beta-lactamases (ESBL) และ AmpC beta-lactamases (AmpC) ซึ่งจะทำให้ยาปฏิชีวนะ เช่น penicillins, cephalosporins เสื่อมประสิทธิภาพ
ตั้งแต่ปี 2543 พบเชื้อ E.coli และ Salmonella ที่ผลิตเอนไซม์ ESBL/AmpC ในอาหารและสัตว์มากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในไก่มีชีวิต และเนื้อไก่ ไข่ และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกอื่นๆ
BIOHAZ วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด การวิวัฒนาการ และการแพร่กระจายของแบคทีเรียที่ผลิตเอนไซม์ ESBL/AmpC สรุปได้ว่า การใช้ยาปฏิชีวนะทั่วไป (ไม่เฉพาะ cephalosporins) เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของสายพันธุ์แบคทีเรียที่ดื้อ! ยาปฏิชีวนะเหล่านี้
ที่มา : The Pig Site
มะกันลดภาษีเอดีนำเข้ากุ้งไทย
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ออกประกาศทบทวนอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) ประจำปีครั้งที่ 5 แก่สินค้ากุ้งแช่แข็งจากไทย โดยได้ลดภาษีเอดีจากเดิมที่มีอัตรา 1.11-4.39% เหลือ 0.41-0.73% ซึ่งส่งผลดีต่อการส่งออกกุ้งของไทยไปสหรัฐฯ เพราะการที่สหรัฐฯ ปรับลดอัตราเอดีไม่ถึง 1% เป็นอัตราที่ต่ำกว่าคู่แข่งของไทย โดยเฉพาะอินเดียที่ถูกเรียกเก็บถึง 1.36-2.31%
ทั้งนี้ ไทยยังต้องรอว่า ผลการทบทวนอัตราเอดีของประเทศที่เหลือ เช่น จีน และเวียดนาม หากอัตราอากรเอดีในภาพรวมยังสูง! กว่าไทย ก็จะทำให้การส่งออกกุ้งไทยมีโอกาสและได้เปรียบในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ผลอัตราเอดีกุ้งที่ออกมาในครั้งนี้ เป็นอัตราที่ต่ำกว่าการทบทวนในครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งเป็นความสำเร็จของผู้ส่งออกไทย ที่สามารถและชี้แจงให้สหรัฐฯ เห็นว่า ปัจจุบันนี้ไทยไม่มีการทุ่มตลาดสินค้ากุ้งในสหรัฐฯ แล้ว และไทยหวังว่า ในการพิจารณาทบทวนครั้งต่อไป สหรัฐฯ จะยกเลิกการใช้มาตรการเอดีกับสินค้ากุ้งไทยในที่สุด
สำหรับการส่งออกสินค้ากุ้งแช่แข็งและแปรรูปของไทยในช่วง 6 เดือนของปี 54 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 1,447 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.1% โดยตลาดส่งออกสำคัญอยู่ที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งผลจากการที่อัตราอากรเอดีลดลง ก็จะยิ่งทำให้สินค้ากุ้งไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น และจะทำให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ที่มา : เดลินิวส์
ทั้งนี้ ไทยยังต้องรอว่า ผลการทบทวนอัตราเอดีของประเทศที่เหลือ เช่น จีน และเวียดนาม หากอัตราอากรเอดีในภาพรวมยังสูง! กว่าไทย ก็จะทำให้การส่งออกกุ้งไทยมีโอกาสและได้เปรียบในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ผลอัตราเอดีกุ้งที่ออกมาในครั้งนี้ เป็นอัตราที่ต่ำกว่าการทบทวนในครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งเป็นความสำเร็จของผู้ส่งออกไทย ที่สามารถและชี้แจงให้สหรัฐฯ เห็นว่า ปัจจุบันนี้ไทยไม่มีการทุ่มตลาดสินค้ากุ้งในสหรัฐฯ แล้ว และไทยหวังว่า ในการพิจารณาทบทวนครั้งต่อไป สหรัฐฯ จะยกเลิกการใช้มาตรการเอดีกับสินค้ากุ้งไทยในที่สุด
สำหรับการส่งออกสินค้ากุ้งแช่แข็งและแปรรูปของไทยในช่วง 6 เดือนของปี 54 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 1,447 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.1% โดยตลาดส่งออกสำคัญอยู่ที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งผลจากการที่อัตราอากรเอดีลดลง ก็จะยิ่งทำให้สินค้ากุ้งไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น และจะทำให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ที่มา : เดลินิวส์
ชาวกิมจิซื้อเนื้อหมูน้อยลง เหตุราคาพุ่งจาก FMD
โรคปากเท้าเปื่อยที่ระบาดในเกาหลีใต้ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรแพงขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2553ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆที่มีราคาถูกกว่า
จากผลสำรวจของสถาบันเศรษฐกิจท้องถิ่นของเกาหลีใต้ที่สำรวจผู้บริโภคจำนวน 750 คน สรุปได้ว่า 80% ของกลุ่มตัวอย่างเริ่มซื้อเนื้อสัตว์ทางเลือกอื่นๆ โดยซื้อเนื้อสัตว์ต่อไปนี้ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย
• เนื้อไก่
&! nbsp; • เนื้อวัวเกาหลีใต้
• เป็ด
• เนื้อวัวนำเข้า
• เนื้อสุกร
ที่มา : Pig Progress
จากผลสำรวจของสถาบันเศรษฐกิจท้องถิ่นของเกาหลีใต้ที่สำรวจผู้บริโภคจำนวน 750 คน สรุปได้ว่า 80% ของกลุ่มตัวอย่างเริ่มซื้อเนื้อสัตว์ทางเลือกอื่นๆ โดยซื้อเนื้อสัตว์ต่อไปนี้ เรียงตามลำดับจากมากไปน้อย
• เนื้อไก่
&! nbsp; • เนื้อวัวเกาหลีใต้
• เป็ด
• เนื้อวัวนำเข้า
• เนื้อสุกร
ที่มา : Pig Progress
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554
มะกันเตรียมเพิ่มอียูในบัญชีประเทศปลอดนิวคาสเซิล
สำนักงานตรวจสอบสุขภาพอนามัยสัตว์และพืชประจำสหรัฐฯ (APHIS) กำลังเสนอที่จะปรับปรุงกฎระเบียบการนำเข้าสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์โดยยอมรับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 25 ประเทศเป็นภูมิภาคการค้าสัตว์ปีกสหภาพยุโรปซึ่งกำหนดโดย APHIS และให้ภูมิภาคดังกล่าวบรรจุอยู่ในรายชื่อภูมิภาคที่ APHIS พิจารณาว่าปลอดโรคนิวคาสเซิล
นอกจากนี้ APHIS ยังกำหนดว่าภูมิภาคดังกล่าวมีมาตรฐานที่สมควรได้รับพิจารณาว่าปลอดโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) อีกทั้งยังเสนอที่จะออกข้อกำหนดการนำเข้านกและสัตว์ปีกมีชีวิตเช่นไข่ฟัก เนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจ! ากภูมิภาคดังกล่าวและจะปรับปรุงความหมายและนิยามของศัพท์ในกลุ่มโรคสัตว์ปีกให้เป็นปัจจุบัน
APHIS กำลังดำเนิน 3 ขั้นตอนด้านการประเมินความเสี่ยงในด้านที่ APHIS ตัดสินใจแล้วว่าภูมิภาคดังกล่าวที่ได้รับเสนอเป็นไปตามข้อกำหนดของ APHIS ซึ่งสมควรได้รับพิจารณาว่าปลอดโรคนิวคาสเซิลและไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง โดยขั้นตอนดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้แก่การนำเข้านกและสัตว์ปีกมีชีวิต เนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิภาคดังกล่าว พร้อมทั้งยังเป็นการป้องกันเชื้อโรคดังกล่าวไม่ให้แพร่ระบาดในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าวตีพิมพ์ใน Federal Register เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 โดยเปิดให้แสดงข้อคิดเห็นถึงวันที่ 19 กันยายน 2554
ที่มา : World Poultry
นอกจากนี้ APHIS ยังกำหนดว่าภูมิภาคดังกล่าวมีมาตรฐานที่สมควรได้รับพิจารณาว่าปลอดโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง (HPAI) อีกทั้งยังเสนอที่จะออกข้อกำหนดการนำเข้านกและสัตว์ปีกมีชีวิตเช่นไข่ฟัก เนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจ! ากภูมิภาคดังกล่าวและจะปรับปรุงความหมายและนิยามของศัพท์ในกลุ่มโรคสัตว์ปีกให้เป็นปัจจุบัน
APHIS กำลังดำเนิน 3 ขั้นตอนด้านการประเมินความเสี่ยงในด้านที่ APHIS ตัดสินใจแล้วว่าภูมิภาคดังกล่าวที่ได้รับเสนอเป็นไปตามข้อกำหนดของ APHIS ซึ่งสมควรได้รับพิจารณาว่าปลอดโรคนิวคาสเซิลและไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง โดยขั้นตอนดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้แก่การนำเข้านกและสัตว์ปีกมีชีวิต เนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิภาคดังกล่าว พร้อมทั้งยังเป็นการป้องกันเชื้อโรคดังกล่าวไม่ให้แพร่ระบาดในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าวตีพิมพ์ใน Federal Register เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 โดยเปิดให้แสดงข้อคิดเห็นถึงวันที่ 19 กันยายน 2554
ที่มา : World Poultry
เวียดนามส่งออกกุ้งไปญี่ปุ่นลดลง
เป็นเวลาหลายปีที่สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปเป็นตลาดรายใหญ่ที่นำเข้ากุ้งจากเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 เดือนแรกของปีเวียดนามส่งออกกุ้งไปญี่ปุ่นลดลง
ในปี 2553 เวียดนามมีแนวโน้มส่งออกกุ้งสูงขึ้น โดยส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ และญี่ปุ่นถึง 1.474 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งเวียดนามทั้งหมด (2.106 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในปี 2554 เวียดนามเสียตำแหน่งผู้ส่งออกกุ้งไปญี่ปุ่นอันดับหนึ่งให้แก่ไทย โดยเวียดนามส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย! ่างมากในช่วงสามเดือนแรก และต่อมาส่งออกลดลงติดต่อกัน 3 เดือน เช่น ปริมาณลดลง 17.7% และมูลค่าลดลง 14.7%ในเดือนเมษายน 2554 ปริมาณลดลง 31.8% และมูลค่าลดลง 3.4% ในเดือนพฤษภาคม และปริมาณลดลง 19.1% และมูลค่าลดลง 12.2% ในเดือนมิถุนายน ผู้ประกอบการกุ้งและผู้ส่งออกกุ้งเวียดนามกำลังเผชิญการขาดแคลนวัตถุดิบเนื่องจากโรคระบาด
ที่มา : FIS
ในปี 2553 เวียดนามมีแนวโน้มส่งออกกุ้งสูงขึ้น โดยส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯ และญี่ปุ่นถึง 1.474 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งเวียดนามทั้งหมด (2.106 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในปี 2554 เวียดนามเสียตำแหน่งผู้ส่งออกกุ้งไปญี่ปุ่นอันดับหนึ่งให้แก่ไทย โดยเวียดนามส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย! ่างมากในช่วงสามเดือนแรก และต่อมาส่งออกลดลงติดต่อกัน 3 เดือน เช่น ปริมาณลดลง 17.7% และมูลค่าลดลง 14.7%ในเดือนเมษายน 2554 ปริมาณลดลง 31.8% และมูลค่าลดลง 3.4% ในเดือนพฤษภาคม และปริมาณลดลง 19.1% และมูลค่าลดลง 12.2% ในเดือนมิถุนายน ผู้ประกอบการกุ้งและผู้ส่งออกกุ้งเวียดนามกำลังเผชิญการขาดแคลนวัตถุดิบเนื่องจากโรคระบาด
ที่มา : FIS
เชื้อ Salmonella ระบาดอีกระลอกในสหรัฐฯ คาดเนื้อไก่งวงบดเป็นเหตุ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศ และ หน่วยงานบริการตรวจสอบและความปลอดภัยอาหารของสหรัฐฯ (FSIS) สืบหาสาเหตุของการระบาดของเชื้อ Salmonella Heidelberg ซึ่งทำให้ในขณะนี้มีผู้ป่วยจำนวน 77 รายใน 26 รัฐ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คาดว่าสาเหตุเกิดจากการบริโภคเนื้อไก่งวงบด เนื่องจากข้อมูลของผู้ป่วยจำนวน 25 ราย จากผู้ป่วยจำนวน 51 ราย ระบุว่าได้บริโภคเนื้อไก่งวงบด FSIS จึงได้แจ้งเตือนผู้บริโภคให้ปรุงเนื้อไก่งวงบดให้สุกดี ระมัดระวังการส่งต่อเนื้อไก่งวงบด การปนเปื้อนข้ามผลิตภัณฑ์และให้ปรุงเนื้อสัตว์ปีกทุกชนิดให้สุกด้วยอุณหภูมิที่ 165 องศาฟาเรนไฮต์
! ; เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้วิธีแยกชิ้นส่วน DNA ของเชื้อ Salmonella ด้วยวิธี Pulse Field Gel Electrophoresis (PFGE) ในการตรวจหาสาเหตุประกอบกับข้อมูลจาก PulseNet ระบบเครือข่ายแห่งชาติ ห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์สาธารณสุขท้องถิ่นและส่วนกลางซึ่งตรวจหาสาเหตุโรคติดเชื้อจากอาหาร
ผลการเพาะเชื้อจากตัวอย่างเนื้อไก่งวงบดซึ่งซื้อมาจากร้านค้าปลีก 4 ร้านระหว่างวันที่ 7 มีนาคม และ 27 มิถุนายน 2554 พบเชื้อ Salmonella Heidelberg ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า 3 ใน 4 ของตัวอย่างชิ้นเนื้อผลิตจากแหล่งผลิตเดียวกัน ส่วนแหล่งผลิตตัวอย่างชิ้นเนื้อที่ 4 กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน
มีรายงานการเจ็บป่วยจากเชื้อดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 1 สิงหาคม 2554 โดยผู้ป่วยมีอายุตั้งแต่! ต่ำกว่า 1 ปี จนถึง 88 ปี ซึ่งมีค่าอายุมัธยฐานที่ 23 ปี 4! 8 % ของผ ู้ป่วยเป็นเพศหญิง ข้อมูลจากผู้ป่วยจำนวน 58 รายระบุว่า มีผู้ป่วย 22 รายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ที่มา : Food Safety News
! ; เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐบาลกลางกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้วิธีแยกชิ้นส่วน DNA ของเชื้อ Salmonella ด้วยวิธี Pulse Field Gel Electrophoresis (PFGE) ในการตรวจหาสาเหตุประกอบกับข้อมูลจาก PulseNet ระบบเครือข่ายแห่งชาติ ห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์สาธารณสุขท้องถิ่นและส่วนกลางซึ่งตรวจหาสาเหตุโรคติดเชื้อจากอาหาร
ผลการเพาะเชื้อจากตัวอย่างเนื้อไก่งวงบดซึ่งซื้อมาจากร้านค้าปลีก 4 ร้านระหว่างวันที่ 7 มีนาคม และ 27 มิถุนายน 2554 พบเชื้อ Salmonella Heidelberg ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า 3 ใน 4 ของตัวอย่างชิ้นเนื้อผลิตจากแหล่งผลิตเดียวกัน ส่วนแหล่งผลิตตัวอย่างชิ้นเนื้อที่ 4 กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน
มีรายงานการเจ็บป่วยจากเชื้อดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 1 สิงหาคม 2554 โดยผู้ป่วยมีอายุตั้งแต่! ต่ำกว่า 1 ปี จนถึง 88 ปี ซึ่งมีค่าอายุมัธยฐานที่ 23 ปี 4! 8 % ของผ ู้ป่วยเป็นเพศหญิง ข้อมูลจากผู้ป่วยจำนวน 58 รายระบุว่า มีผู้ป่วย 22 รายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ที่มา : Food Safety News
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554
มะกันเรียกคืนเนื้อวัวถอดกระดูกแช่แข็ง
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2554 หน่วยงานบริการตรวจสอบและความปลอดภัยอาหารของสหรัฐฯ (FSIS) รายงานว่าบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เรียกคืนเนื้อวัวถอดกระดูกแช่แข็งจำนวน 6,240 ปอนด์ ซึ่งนำเข้าจากฮอนดูรัส เนื่องจากอาจปนเปื้อนยาสัตว์ Ivermecin ซึ่งเป็นยากำจัดพยาธิในสัตว์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานการเจ็บป่วยซึ่งเกิดจากเนื้อวัวดังกล่าว การเรียกคืนผลิตภัณฑ์ครั้งนี้จัดอยู่ในกลุ่มการเรียกคืนแบบ Class II ซึ่งจัดเป็นการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสส่งผลเสียต่อสุขภาพได้น้อย
FSIS กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2554 FSIS ตรวจพบการปนเปื้อน! ยาสัตว์ในเนื้อวัวดังกล่าวระหว่างการสุ่มตรวจตัวอย่างเป็นประจำในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของเนื้อวัวที่บริษัท Empacadora C&D ฮอนดูรัส ล็อตการผลิตซึ่งพบการปนเปื้อนยาสัตว์ดังกล่าวถูกปฏิเสธการนำเข้าในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากฮอนดูรัสแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของ FSIS ฝ่ายต่างประเทศในภายหลังว่า มีเนื้อวัวเพิ่มเติมจากแหล่งผลิตเดียวกันได้ถูกส่งมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้แล้ว
เนื้อวัวถอดกระดูกซึ่งถูกเรียกคืนมีจำหน่ายใน บรรจุภัณฑ์กระดาษแข็งขนาด 60 ปอนด์ ยี่ห้อ C&D รหัสล็อต 60 146-11 A หรือ 60 146-11 B และวันที่แปรรูปคือวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 ถูกส่งไปยังผู้แปรรูปในรัฐฟลอริดาและอิลลินอยส์
ที่มา : Food Safety News
FSIS กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2554 FSIS ตรวจพบการปนเปื้อน! ยาสัตว์ในเนื้อวัวดังกล่าวระหว่างการสุ่มตรวจตัวอย่างเป็นประจำในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของเนื้อวัวที่บริษัท Empacadora C&D ฮอนดูรัส ล็อตการผลิตซึ่งพบการปนเปื้อนยาสัตว์ดังกล่าวถูกปฏิเสธการนำเข้าในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากฮอนดูรัสแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของ FSIS ฝ่ายต่างประเทศในภายหลังว่า มีเนื้อวัวเพิ่มเติมจากแหล่งผลิตเดียวกันได้ถูกส่งมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้แล้ว
เนื้อวัวถอดกระดูกซึ่งถูกเรียกคืนมีจำหน่ายใน บรรจุภัณฑ์กระดาษแข็งขนาด 60 ปอนด์ ยี่ห้อ C&D รหัสล็อต 60 146-11 A หรือ 60 146-11 B และวันที่แปรรูปคือวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 ถูกส่งไปยังผู้แปรรูปในรัฐฟลอริดาและอิลลินอยส์
ที่มา : Food Safety News
รัสเซียส่งออกธัญพืชพุ่ง 30%
Yelena Skrynnik รัฐมนตรีเกษตรของรัสเซียกว่าว่ารัสเซียส่งออกธัญพืชกว่า 1.5 ล้านเมทริกตันตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2553 โดยมีผู้นำเข้าธัญพืชส่วนรายใหญ่คือตุรกี อียิปต์ อะเซอร์ไบจัน อิสราเอล และสหภาพยุโรป นอกจากนี้รัสเซียยังส่งออกธัญพืชไปช่วยเหลือประเทศต่างๆด้วยได้แก่ นิการากัว และเกาหลีเหนือ
ในปี 2554 รัสเซียส่งออกแป้งทำอาหารถึง 600,000 ตันซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า ซึ่งการส่งออกแป้งทำอาหารไม่ได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียห้ามการส่งออกธัญพืชถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เนื่องจากรัสเซียเผชิญความแห้งแล้งรุนแรงท! ี่สุดในรอบ 50 ปี
ที่มา : มกอช.
ในปี 2554 รัสเซียส่งออกแป้งทำอาหารถึง 600,000 ตันซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า ซึ่งการส่งออกแป้งทำอาหารไม่ได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียห้ามการส่งออกธัญพืชถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เนื่องจากรัสเซียเผชิญความแห้งแล้งรุนแรงท! ี่สุดในรอบ 50 ปี
ที่มา : มกอช.
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554
รัสเซียนำเข้าวัตถุดิบอาหารและการเกษตรเพิ่มขึ้น 29.4 % ในครึ่งปีแรกของปี 54
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2554 กระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียนำเข้าวัตถุดิบอาหารและการเกษตรมูลค่า 18.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 29.4 % ในครึ่งแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2553
รัสเซียนำเข้าเนื้อโค สัตว์ปีก เนย ชา น้ำมันดอกทานตะวัน โกโก้ เครื่องดื่มและอาหารหลักอื่นๆเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น ปลา นมข้น น้ำตาลและบุหรี่ลดลง
การนำเข้าอาหารซึ่งคิดเป็น 15.9 %ของการนำเข้าทั้งหมด ลดลง 2.4 % ในปี 2554
ในขณะเดียวกัน การส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารลดลง 36.9% เหลือ 2,656.1 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วง 5 เดือนแรกของปี 2553
ที่มา : Xinhua News
รัสเซียนำเข้าเนื้อโค สัตว์ปีก เนย ชา น้ำมันดอกทานตะวัน โกโก้ เครื่องดื่มและอาหารหลักอื่นๆเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์อื่นๆเช่น ปลา นมข้น น้ำตาลและบุหรี่ลดลง
การนำเข้าอาหารซึ่งคิดเป็น 15.9 %ของการนำเข้าทั้งหมด ลดลง 2.4 % ในปี 2554
ในขณะเดียวกัน การส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารลดลง 36.9% เหลือ 2,656.1 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วง 5 เดือนแรกของปี 2553
ที่มา : Xinhua News
กิมจิไฟแดงยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ผสมชั่วคราว
ในปี 2546 กระทรวงเกษตร อาหาร ป่าไม้ และประมงของเกาหลีใต้ (MIFAFF) ประกาศนโยบายที่จะเริ่มต้นทยอยยกเลิกใช้การใส่ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ผสมที่จำหน่ายในท้องตลาดไปจนกว่าจะมีการใช้มาตรการทางสัตวแพทย์ สาเหตุในการยกเลิกการใส่ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์เนื่องจากต้องการลดการใช้ผิดและลดการดื้อยาปฏิชีวนะในมนุษย์
กระบวนการทยอยยกเลิกการใช้ยาปฏิชีวินะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีการลดจำนวนชนิดยาปฏิชีวนะที่ใช้ในอาหารสัตว์ผสมในทางการค้าจาก 53 เหลือ 25 ชนิด และลดเหลือ 18 ชนิดในเดื! อนมกราคม 2552 และยกเลิกที่เหลือทั้งหมดภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554
คาดว่ามาตรการทางสัตวแพทย์จะมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดภายในปลายปี 2012 ซึ่งจะอนุญาตให้มีการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน MIFAFF ก็กำลังดำเนินการเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในช่วงเปลี่ยนผ่านเช่นการให้ความรู้และข้อมูลแก่ผู้เลี้ยงปศุสัตว์และโรงผลิตอาหารสัตว์ การพัฒนาสารป้องกันโรคพร้อมตัวใหม่กับคู่มือการปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง การส่งเสริมการปฏิรูปการเกษตรและการปรับปรุงเทคนิคการเลี้ยงสัตว์เพื่อลดการเกิดโรค และการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์โดยผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากยาปฏิชีวนะและมาจากธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลสำคัญบางประการต้องทราบคือ
1.) ยังสามารถใส่ยาปฏิชีวนะได้ในอาหารสัตว์และน้ำในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้ หากมีมาตรการสัตวแพทย์เกิดขึ้นหลังจากนั้น โรงงานผลิตอาหารสัตว์จะต้องใส่ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ตามอัตราส่วนที่แนะนำโดยสัตวแพทย์
2.) คาดว่าจะไม่กระทบต่อความต้องการอาหารสัตว์ผสมซึ่งส่วนใหญ่เป็นธัญพืชที่ผลิตจากสหรัฐฯ
3.) ยังคงมีการกำหนดปริมาณสารตกค้างยาสัตว์ของเกาหลีใต้ต่อไป เนื่องจากยังมีการใช้อาหารสัตว์ผสมในอุตสาหกรรมปศุสัตว์เกาหลีใต้
4.) นโยบายดังกล่าวไม่มีผลกับสัตว์ที่ใช้ผลิตเนื้อสัตว์นำเข้า หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่มีผลต่อเนื้อสัตว์ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ
ที่มา : The World Poultry
กระบวนการทยอยยกเลิกการใช้ยาปฏิชีวินะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2548 ซึ่งมีการลดจำนวนชนิดยาปฏิชีวนะที่ใช้ในอาหารสัตว์ผสมในทางการค้าจาก 53 เหลือ 25 ชนิด และลดเหลือ 18 ชนิดในเดื! อนมกราคม 2552 และยกเลิกที่เหลือทั้งหมดภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2554
คาดว่ามาตรการทางสัตวแพทย์จะมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดภายในปลายปี 2012 ซึ่งจะอนุญาตให้มีการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน MIFAFF ก็กำลังดำเนินการเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในช่วงเปลี่ยนผ่านเช่นการให้ความรู้และข้อมูลแก่ผู้เลี้ยงปศุสัตว์และโรงผลิตอาหารสัตว์ การพัฒนาสารป้องกันโรคพร้อมตัวใหม่กับคู่มือการปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง การส่งเสริมการปฏิรูปการเกษตรและการปรับปรุงเทคนิคการเลี้ยงสัตว์เพื่อลดการเกิดโรค และการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์โดยผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากยาปฏิชีวนะและมาจากธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลสำคัญบางประการต้องทราบคือ
1.) ยังสามารถใส่ยาปฏิชีวนะได้ในอาหารสัตว์และน้ำในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้ หากมีมาตรการสัตวแพทย์เกิดขึ้นหลังจากนั้น โรงงานผลิตอาหารสัตว์จะต้องใส่ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ตามอัตราส่วนที่แนะนำโดยสัตวแพทย์
2.) คาดว่าจะไม่กระทบต่อความต้องการอาหารสัตว์ผสมซึ่งส่วนใหญ่เป็นธัญพืชที่ผลิตจากสหรัฐฯ
3.) ยังคงมีการกำหนดปริมาณสารตกค้างยาสัตว์ของเกาหลีใต้ต่อไป เนื่องจากยังมีการใช้อาหารสัตว์ผสมในอุตสาหกรรมปศุสัตว์เกาหลีใต้
4.) นโยบายดังกล่าวไม่มีผลกับสัตว์ที่ใช้ผลิตเนื้อสัตว์นำเข้า หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่มีผลต่อเนื้อสัตว์ที่นำเข้าจากสหรัฐฯ
ที่มา : The World Poultry
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)